ข่าว
ชี้แจงสาเหตุผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ลดลงเกินร้อยละ 20
ที่ ทอท. 5627/2550
14 สิงหาคม 2550
เรื่อง ชี้แจงสาเหตุ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ประจำปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2550 เปลี่ยนแปลงลดลงเกินร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงาน ของไตรมาส 3 ประจำปี 2549
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนที่ผลประกอบการ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีการเปลี่ยนแปลงเกินร้อยละ 20 ให้รายงาน ตลท.ทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลนั้น
เนื่องจาก ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ประจำปี 2550 เริ่มตั้งแต่1 เมษายน 2550-30 มิถุนายน 2550 (Q3/2550) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (ทอท.) มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 4,664.82 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 4,377.21 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 287.61ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้นิติบุคคล 1,853.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 331.30 ล้านบาท ลดลง จำนวน 1,755.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.12 จาก Q3/2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 2,086.73 ล้านบาท
ขอเรียนชี้แจงสาเหตุการลดลงของผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2550 (Q3/2550) ซึ่งมีกำไร สุทธิเปลี่ยนแปลงลดลงร้อยละ 84.12 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ประจำปี 2549 (Q3/2549) จากสาเหตุหลักดังนี้
1. รายได้จากการดำเนินงาน
ในภาพรวม ทอท. มีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้ใน Q3/2550 รวม 4,664.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q3/2549 จำนวน 710.33 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.96 เนื่องจากรายได้หลักของทอท. จากกิจการบิน เพิ่มขึ้นจาก Q3/2549 จำนวน 764.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.00 จากการขยายตัวของปริมาณ จราจรทางอากาศ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเที่ยวบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.93 ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.22 โดยเฉพาะ สายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งมีเที่ยวบิน และผู้โดยสาร เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากการที่ ทอท.ปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (Passenger Service Charges) หรือ PSC สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ และในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 และใน Q3/2550 ทอท.ได้ปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมสนามบิน (Landing and Parking Fee) หรือค่าธรรมเนียม ในการขึ้น-ลงอากาศยาน และค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550
อย่างไรก็ตาม ใน Q3/2550 ทอท.ยังคงไม่บันทึกรับรู้รายได้จากการให้บริษัทเอกชน 2 ราย ประกอบ กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและกิจกรรมร้านค้าเชิงพาณิชย์ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานภูมิภาค ตามมติคณะกรรมการ ทอท. รวมเป็นรายได้ที่ไม่บันทึกรับรู้ใน Q3/2550 จำนวน 863.97 ล้านบาท
2. ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน (Q3/2550)
จำนวน 4,377.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก (Q3/2549) 2,541.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 138.42 สาเหตุสำคัญ เนื่องจาก การเปิดให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2549 อีกทั้งการเปิด ให้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อรองรับปริมาณจราจรทางอากาศบางส่วนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2550 เป็นต้นมา มีผลให้ :-- ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย เป็นยอดรวมในไตรมาสนี้ 1,984.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q3/2549 จำนวน 1,657.34 ล้านบาท หรือร้อยละ 506.10
- ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 1,408.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จาก Q3/2549 จำนวน 739.92 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 110.63 เนื่องจากค่าจัดจ้างเอกชนดำเนินการต่าง ๆ (Outsources) ภายในเขตท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ศูนย์บริหารการขนส่งสาธารณะ โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งค่าสาธารณูปโภค และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ค่าซ่อมแซม จำนวน 184.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จาก Q3/2549 จำนวน 93.18 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 102.40 เนื่องจาก ค่าซ่อมแซมและค่าบำรุงรักษาสายพานลำเลียงกระเป๋า ครุภัณฑ์ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ และ ค่าซ่อมแซมทางวิ่งทางขับ
3. กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
เป็นยอดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการปรับมูลค่า ณ วันสิ้น งวดจำนวน 3,074.74 ล้านบาท และผลขาดทุนจากสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำนวน 1,761.04 ล้านบาท ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ใน Q3/2550 จำนวน 1,313.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q3/2549 จำนวน 1,560.68 ล้านบาท หรือร้อยละ 631.91
อัตราแลกเปลี่ยน
บาท / 100 เยน |
บาท / US $ | |
มิ.ย. 50 |
28.2413 |
34.6679 |
มิ.ย. 49 |
33.4992 |
38.3295 |
ลดลง |
(5.2579) |
(3.6616) |
4. ดอกเบี้ยจ่าย
จำนวน 572.34 ล้านบาท ซึ่งเดิมบันทึกเป็นต้นทุนงานก่อสร้างท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ และโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ5. ภาษีเงินได้นิติบุคคล
จำนวน 965.33 ล้านบาท สูงกว่า Q3/2549 จำนวน 809.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 518.17 เนื่องจาก ทอท.ยื่นชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลงวดครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี โดยนำรายได้ จากการประกอบการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งไม่ได้บันทึกรับรู้เป็นรายได้ มารวมคำนวณภาษี ฯ ด้วย ตามที่กรมสรรพากรให้ความเห็น มีผลให้เงินค่าภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงกว่า ยอดตามบัญชี 454.10 ล้านบาทดังนั้น กำไรสุทธิจึงลดลง ร้อยละ 84.12 หรือ 1,755.43 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.23 บาท ลดลงจาก Q3/2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.46 บาท
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นางสาวพรทิพย์ กาญจนศาสตร์)
ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี
ผู้มีอำนาจลงนาม
ฝ่ายบัญชี
โทรศัพท์ 0-2535-1594
โทรสาร 0-2535-1855
Attachments